อาคารทาคายาม่าจินยะ (Takayama Jinya)
ซันมาชิซูจิ (Sanmachi-suji)
ปราสาทนาโงย่า (Nagoya Castle)
ช้อปปิ้ง แจ๊สดรีม นากาชิม่า เอาท์เล็ต (Jazzdream Nagashima Outlet)
พิเศษ! ขาปูยักษ์ ทุกกรุ๊ป
เป็นหมู่บ้านมรดกโลก (World Heritage Site) จากองค์การ UNESCO ในปี 1995 ตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูงฮิดะ ในหุบเขาตามลำน้ำ Shogawa เป็นหมู่บ้านชาวนาที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ละบ้านนั้นสร้างเป็นทรงหน้าจั่วที่หลังคาสูงทำมุม 60 องศา เรียกว่าบ้านแบบ กัสโซสึคุริ (Gassho-Zukuri) ทำด้วยหญ้าหนาๆ เพื่อให้สามารถรับน้ำหนักของหิมะที่ตกลงมาอย่างหนาในช่วงฤดูหนาว และการที่มีความเอียงลาดชันก็เพื่อให้หิมะไหลลงมาได้ง่าย
ทำหน้าที่เป็นสำนักงานรัฐบาลท้องถิ่นประจำภูมิภาคฮิดะ(Hida Region) โดยเจ้าหน้าที่ที่ส่งมาจากเอโดะในสมัยการปกครองของโชกุนโทคุงาวะ(Tokugawa Shogunate) ปี 1692 จนกระทั่งปี 1969
ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนเข้าชมห้องเสื่อทาทามิที่ได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี ซึ่งเดิมเป็นห้องประชุมสำนักงาน ที่อยู่อาศัย และห้องสอบสวน ข้างๆอาคารหลักเป็นที่ตั้งของโกดังข้าวขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในยุค 1600 ปัจจุบันใช้เป็นที่จัดแสดงข้าวของและเอกสารทางการของขุนนางศักดินา แผนที่ภูมิภาคฮิดะ และประวัติศาสตร์แผนเมือง เป็นต้น
หรือ ลิตเติ้ลเกียวโต (Little Kyoto) คำว่า San แปลว่า สาม machi แปลว่า เมือง suji แปลว่า ถนน ย่านมาชิซูจิเป็นย่านเมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนสมัยเอโดะกว่า 300 ปี ไว้ได้เป็นอย่างดี ตัวเมืองล้อมรอบด้วยคูน้ำและถนน 3 สายเล็กๆ ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานในช่วงที่ไม่มีหิมะตกร้านค้าจะเปิดให้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึก รวมทั้งสาเกที่ขึ้นชื่อด้วย คนที่อาศัยอยู่แถวนี้ ดัดแปลงบ้านเป็นร้านขายของต่างๆ (traditional shop)
สินค้าที่จำหน่ายในตลาดส่วนใหญ่เป็นงานฝีมือท้องถิ่น ขนมขบเคี้ยว สินค้าทางการเกษตร เช่น ผักสด ผักดอง และดอกไม้ เป็นต้น
สร้างขึ้นในยุคเริ่มต้นสมัยเอโดะ เป็นปราสาทและป้อมปราการสำคัญคล้ายปราสาทฮิเมจิ อาคารปราสาทส่วนใหญ่ถูกทำลายในการโจมตีทางอากาศในปี 1945 ต่อมาได้รับการฟื้นฟูสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กในปี 1959 จนมาถึงปัจจุบัน ภายในมีพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัย จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของปราสาท สวนหย่อมรอบปราสาทแบ่งเป็น 2 ชั้น คือคูเมือง และกำแพงป้อมปราการ ซึ่งเป็นจุดชมดอกซากุระบานในช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน
เป็นศาลเจ้าใหญ่รองจากศาลเจ้าอิเสะจิงกู ในทุกปีจะมีผู้มาสักการะประมาณ 6,500,000 คน สิ่งสักการะของศาลเจ้าแห่งนี้คือดาบคุซานางิ (Kusanagi-no-Tsurugi) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเครื่องราชกกุธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ประจำจักรพรรดิญี่ปุ่น และยังมีกำแพงที่โชกุนโอดะ โนบุนางะถวายให้ศาลเจ้าตามที่เคยได้อธิษฐานขอพรให้ได้รับชัยชนะในปีค.ศ 1560 ในพิพิธภัณฑ์วัดอัตสึตะ มีการจัดแสดงสิ่งของซึ่งมีประวัติความเป็นมาราว 6,000 ชิ้น
หนึ่งใน Mitsui Outlet Park ซึ่งเป็น Outlet Mall ขนาดใหญ่ เป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่และเป็นที่นิยมที่มีกว่า 1,200 ร้านค้าและร้านอาหาร ทุกชนิดของร้านค้ารวมทั้งร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า, ร้านขายเสื้อผ้ามือสองร้านอาหารและคาเฟ่